“ผบ.สูงสุด-ผบ.ทบ.-ผบ.ทร.-ผบ.ทอ.”รับเสด็จฯ “พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี”ทอดพระเนตร"ราชวัลลภเริงระบำ”Hop to the bodies slams และ กองทหารเกียรติยศ....ที่รร.เตรียมทหาร

“ผบ.สูงสุด-ผบ.ทบ.-ผบ.ทร.-ผบ.ทอ.”รับเสด็จฯ “พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี”ทอดพระเนตร”ราชวัลลภเริงระบำ”Hop to the bodies slams และ กองทหารเกียรติยศ….ที่รร.เตรียมทหาร
…ร.9พัน1 -กรมตอ.2สอ.รฝ. ชนะเลิศบิ๊กกบ พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.สูงสุด บิ๊กแดง พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. บิ๊กลือ พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. บิ๊กนัตพล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ. .”รับเสด็จฯ “พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี” ทอดพระเนตร การแสดงทางทหารประกอบดนตรี”ราชวัลลภเริงระบำ”Hop to the bodies slams และกองทหารเกียรติยศ
“พลเอกหญิง สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี”ทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบ “พระราชฐาน” ของ ทม.รอ.
และทรงเป็นรองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์(รองผบ.นถปภ.รอ.) ทอดพระเนตร การแสดงทางทหารประกอบดนตรี”ราชวัลลภเริงระบำ”Hop to the bodies slams ….พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทอดพระเนตรการแสดงทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ” และกองทหารเกียรติยศ ประจำปี 2562 ที่โรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายก
การแสดงทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ” (Hop to the bodies slams)และกองทหารเกียรติยศประจำปี 2562 ครั้งนี้ จัดจากหน่วยที่ได้รับคัดเลือกและจัดการแสดงสาธิตการฝึกของกองทัพไทย จำนวน 3 กรม
ประกอบด้วย กรมฮอป (HOP) หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง,กรมฮอป ( HOP) หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ,กรมทหารราบที่ 9 กองพลทหารราบที่ 9 จำนวน 837 นาย
ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานคู่มือฝึกทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ” 2559 และแบบฝึกทางทหารประกอบดนตรี“ราชวัลลภเริงระบำ” ให้นำไปดำเนินการฝึกกำลังพลของกองทัพไทย
โดยกองทัพไทยได้ดำเนินการฝึกตามพระบรมราโชบายและนำไปขยายผลให้กับทหารทุกหน่วยจนถึงระดับกองพัน เพื่อให้กำลังพลมีการปฏิบัติที่เข้มแข็งพร้อมเพรียง มีวินัย ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการใช้อาวุธของกำลังพล
ทั้งนี้ กองทัพไทย ได้ดำเนินการฝึกกำลังพลอย่างเข็มแข็ง และจัดการแข่งขันการฝึกทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ”
โดยมีหน่วยเข้าร่วมการแข่งขันจากทุกเหล่าทัพ จำนวนทั้งสิ้น 17 กรม 51 กองพัน ใช้เวลาในการคัดเลือกเป็นระยะเวลา 3 เดือน จนได้หน่วยที่ดีที่สุด 3 ลำดับ
นอกจากนี้ ยังพระราชทานพระบรมราโชบาย ให้กองทัพไทย ดำเนินการจัดการแข่งขันกองทหารเกียรติยศ เพื่อให้การปฏิบัติของกองทหารเกียรติยศมีความเป็นมาตรฐาน เกิดความสง่างาม และเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดี
โดยมีหน่วยเข้าร่วมการแข่งขันจากทุกเหล่าทัพ จำนวน 108 กองพันใช้เวลาในการคัดเลือก เป็นระยะเวลา 3 เดือน จนได้หน่วยที่ดีที่สุด 2 ลำดับ
จากนั้น พระราชทานรางวัลชนะเลิศ และรางวัลรองชนะเลิศการแข่งขันกองทหารเกียรติยศและการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ”
ซึ่งรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ พันโท ที เพิ่มผล ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23
รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ พันโท บุญวัฒน์ จันทรมานนท์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 17
การแข่งขันการแสดงการฝึกทางทหารประกอบดนตรี “ราชวัลลภเริงระบำ” ระดับกรม
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นาวาเอก พูนศักดิ์ บัวแก้วผู้บังคับการกรมต่อสู้อากาศยานที่ 2 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นาวาเอก เผดิมชัย สุคนธมัต ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ พันเอก วุทธยา จันทมาศผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 9 กองพลทหารราบที่ 9
“ราชวัลลภเริงระบำ” ระดับกองพันรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ พันโท พิจักษณ์ บุปผาพันธุ์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 9
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ นาวาโท สุทธิ ทิพย์สุขผู้บังคับกองพันรักษาฝั่งที่ 11 กรมรักษาฝั่งที่ 1หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นาวาโท สุรศักดิ์ กิ่มบางยางผู้บังคับกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 11 กรมต่อสู้อากาศยานที่ 1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
โอกาสนี้ พระราชทานพระราชดำรัส ความว่า ขอแสดงความยินดี และชื่นชมที่ทุกท่านมีความตั้งใจ มุ่งมั่น อดทน และพยายามฝึกฝน จนมาถึงวันแห่งความสำเร็จในวันนี้
จากการที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสฝึกฝนและปฏิบัติการแสดงราชวัลลภเริงระบำด้วยตนเองมาแล้วนั้น ทำให้ข้าพเจ้าตระหนักและซาบซึ้งเป็นอย่างดีว่าทุกท่านต้องผ่านการฝึกด้วยความอดทน มุ่งมั่น มีระเบียบวินัย ต้องใช้สมาธิและทักษะเป็นอย่างมาก ในการที่จะผ่านการแสดงราชวัลลภเริงระบำนี้ไปได้
ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่ได้นอกจากจะทำให้ร่างกายและจิตใจของเราเข้มแข็งแล้ว ยังสามารถนำท่าทางที่เราได้เรียนรู้ไปปฏิบัติหน้าที่ถวายงานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเป็นกิจกรรมส่งเสริมความสามัคคีในหมู่ผู้บังคับบัญชาและกำลังพล ซึ่งสอดคล้องกับชีวิตจริงในการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันเป็นหน่วย ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ เพื่อความสำเร็จลุล่วงของภารกิจ
ข้าพเจ้าขอให้ทุกท่านจงรู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้ผ่านการฝึกฝนจนมาถึงความสำเร็จในวันนี้ และขอให้ทุกท่านได้นำประโยชน์ของการแสดงราชวัลลภเริงระบำนี้ ถ่ายทอดไปสู่ผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนนำไปประยุกต์ ปฏิบัติใช้ต่อภารกิจต่างๆ ของหน่วย เพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ และประชาชนสืบต่อไป